ดาร์ลิ่ง-พี่สาว ไหว้ขอโทษรับผิด ยันไม่ได้พูดว่าน้องหมาอยากกิน

ดาร์ลิ่ง-พี่สาว ไหว้ขอโทษรับผิด ยันไม่ได้พูดว่าน้องหมาอยากกิน

จากกรณีดราม่าร้อนแรงในโซเชียล หลังจากที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์แชร์ภาพ 2 สาว กำลังนั่งกินขนมหวานในร้านชื่อดัง แถวอารีย์ จากนั้นเจ้าตัวได้ใช้ช้อนป้อนขนมสุนัขที่พามาด้วย พนักงานจึงเข้ามาบอกว่า ไม่ให้ใช้ช้อนกับสุนัข เจ้าตัวก็เลยตอบกลับไปว่า “ก็น้องอยากกินอะค่ะ” ต่อมาจึงทราบว่า ผู้หญิงในภาพคือ ดาร์ลิ่ง อารดา อดีตเกิร์ลกรุ๊ป วงชูการ์ อายส์ และเป็นนักแสดงสาว และผู้หญิงอีกคนคือพี่สาวของดาร์ลิ่ง

ล่าสุดดาร์ลิ่ง พร้อมพี่สาว ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว 

ดาร์ลิ่งยอมรับว่า ตัวเองอาจจะผิดเอง ที่เห็นพี่สาวกำลังจะทำหรือทำแล้ว ไม่ได้ห้าม ตอนเกิดเรื่องมีพนักงานร้านมาบอกว่า มีลูกค้าแจ้งว่าเห็นเราใช้ช้อนของทางร้านป้อนน้องหมา เลยเอาช้อนพลาสติกมาให้ ถ้าจะใช้ป้อนน้องหมา เราก็ได้ขอโทษพนักงานไป และบอกว่าเราจะไม่ป้อนน้องหมาแล้ว

หลังจากเกิดเรื่องจนมีดราม่า เราก็ได้กลับมาที่ร้าน สอบถามผู้จัดการร้านถึงค่าเสียหายกับภาชนะที่ใช้ไปวันนั้น เรายินดีที่จะรับผิดชอบตรงนี้ และยืนยันถึงคำพูดว่า “น้องอยากกินอะ” ไม่ได้ออกจากปากเราสองคนแน่นอน โดยได้ติดต่อไปที่คนโพสต์คนแรก เขาก็ขอโทษแล้ว และบอกว่าอาจจะได้ยินผิด และได้ลบโพสต์ไปแล้ว

ดาร์ลิ่งและพี่สาว ยังได้ยกมือไหว้ขอโทษแล้วบอกว่า สิ่งที่ทำไม่สมควรจริงๆ เพราะตอนนี้ลามปามไปถึงครอบครัว สถาบันด้วย มันเยอะมาก ขอร้องคนที่จะแชร์ต่อ อย่าแชร์ต่อเพราะข้อมูลไม่เป็นจริง ตอนนี้เครียดมาก เพราะถูกบูลลี่หนัก ที่ผ่านมาเราไม่เคยทำแบบนี้เลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราทำผิด เอาของใช้ของทางร้านมากับใช้กับน้องหมาจริง

ทางด้านพนักงานของทางร้าน ได้เผยว่า ตนได้ไปแจ้งตามที่ดาร์ลิ่งบอกจริง และดาร์ลิ่งไม่ได้พูดคำว่า น้องอยากกิน เลย โดยได้ไปแจ้งกับทางผู้จัดการร้าน และลูกค้าที่เข้ามาแจ้งว่าเห็นเหตุการณ์แล้ว และทางร้านก็ได้นำอุปกรณ์ที่นำไปใช้กับน้องหมาไปทิ้งเรียบร้อยแล้ว

ผมยังไม่ทราบเลย ปีที่แล้วยังทำงานกันปกติไม่มีอะไร เรื่องเขามีแฟนผมก็ปล่อยเขา หลังเขาเลิกกับคนนึงไปคบกับอีกคนนึง ผมก็ปล่อยเขา ส่วนตัวผมไม่ยุ่งอยู่แล้ว ยุ่งแต่เรื่องงาน ผมกำลังทำงานถ่ายหนังเรื่องสงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์ ค่าตัวก็จ่ายหมด อยู่ๆ มาทำเรื่องหลวงตามหาเฮงต่อ เขาเล่นเป็นคนขาเป๋ก็ไม่มีปัญหา จนหนังปิดกล้อง ผมก็ไปทำงานของผม

จนผมหวังดีว่าไปทำงานกับพี่โอ๋ สตาร์ฮันเตอร์เกี่ยวกับซูเปอร์บอยโปรเจกต์ ก็บอกว่าขอให้เอาเด็กผมไปออกได้มั้ย ที่นึงคิด 3 หมื่น คิดให้เด็กมีงานทำ หลายที่รวมเป็นแสน พี่โอ๋ก็โอเค เราก็ไปบอกเด็ก เด็กบอกไม่เอาจะเรียนหนังสือ ถ้าไม่รับงานนี้ก็ไม่เป็นไร เราก็ไปแคนเซิลกับพี่โอ๋ ผมก็ทำงานของผมไป อยู่ๆ มีโพสต์ในไอจีบอกว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ทนไม่ได้แล้ว

จนมาพูดเรื่องโกงเงิน เบี้ยวเงิน เบี้ยวตรงไหน ตอนนั้นเขามาเซ็นสัญญาเพิ่ม 5 ปี ซึ่งเด็กคนนี้ก็เชื่อใจเรา อยู่กับเรา เราก็ป้อนงานให้ตลอด หนังปีนึง 3 เรื่อง ไม่มีคนอื่นได้รับเล่นขนาดนี้นะอาจารย์ พอบอกผมเบี้ยวเงิน ก็อะไรของเขา จะเอาสัญญาที่เหลือ 3 ปีคืน ผมบล็อกเขาเพราะขี้เกียจรับรู้เรื่องส่วนตัวเวลาเขาทะเลาะกัน ไม่ต้องรับรู้ข่าวสาร

เวลาปั้นเด็กผู้ชาย คนจะคิดไปต่างๆ นานา?

ผมพูดตรงนี้เลยนะ ว่าเด็กที่ผมปั้นทั้งหมด ใครเคยมีเพศสัมพันธ์กับผมให้ออกมาเลย ให้ออกมาพูดกันเลย ผมไม่ยุ่งเรื่องนี้ ไม่งั้นผมคงไม่อยู่มาได้ถึง 20 กว่าปี ผมทำตรงนี้มาเกือบ 28 ปี ถ้ายุ่งจริงผมจะอยู่ไม่ได้ เพราะสักวันเรื่องต้องเปิดเผย แล้วผมก็ไม่ได้ชอบเขาอยู่แล้ว เพราะหนึ่งเขามีแฟนมาตลอด มาคบคนนี้ผมก็รับรู้ตลอด ไม่เคยมีลักษณะชอบเด็กแบบนี้แบบนั้น ผมรักแบบน้องมากกว่า เห็นน้องเซ็นสัญญาอยู่กับผม ผมก็ต้องป้อนงานให้ เพราะเขาเชื่อใจผม มาตอนหลังรู้สึกเขาเปลี่ยนไป เขาไม่พอใจโน่นนี่ เมื่อก่อนเขาไม่เคยเถียงผมเลยนะ 7 ปีที่เราทำงานด้วยกัน เขาไม่เคยพูดสักคำว่าผมโกงเงินเขา

นั่นน่ะสิ ถ้าผมทำผิดสัญญา เขาก็มีเหตุเรียกร้องสัญญาคืนได้ แต่ผมไม่เคยผิดสัญญา ที่สำคัญในสัญญาไม่มีด้วยว่าผมเบี้ยวหรือโกงอะไร เรื่องนี้ผมเลยฟ้องศาลว่าเขาหมิ่นประมาทผม ศาลซักถามโน่นนี่ จนปัจจุบันที่เขาหมิ่นประมาทผมกี่ข้อ มันมีมูลไงครับอาจารย์

ผมไม่ทราบครับ ไม่ได้คุยกับเขานาน ผมงงมาก ก่อนหน้ามีเรื่องผมก็ไม่เจอ ผมบล็อกหมด ไม่ได้โกรธนะ แต่ไม่รู้จะคบไปทำไม ไม่อยากรับรู้แล้ว เพราะผมต้องทำงานของผม ผมเป็นคนใจดีนะ เด็กทุกคนจะรู้ว่าพี่พชร์ไม่เคยทิ้งเด็ก ช่วยเหลือตลอด เราสปอร์ตมาก เหมือนเทพพิทักษ์มาทำงานกับเรา เราก็ช่วยเต็มที่ แต่เขาทำพฤติกรรมไม่ดี เราก็ต้องปล่อยเขาไป จะบอกให้ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มาบอกผมเบี้ยวเงินผมพึ่งศาลเลย

ไม่ใช่ เวลาเราสร้างคนก็ต้องใช้เงินในการสร้าง จ่ายค่าตัวโปรโมท เขียนเชียร์โน่นนี่ ถ้าจะเอาสัญญาคืนก็เอาเงินมา 3 ล้าน เพราะยังเหลือสัญญาอีก 3 ปี ก็ปีละล้าน มันไม่ใช่สัญญาโหดหรือสัญญาทาส สัญญาตัวนี้เหมือนกันกับทุกบริษัท ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว ดาราคนอื่นเวลาเขาฉีกสัญญาก็ต้องจ่ายเงิน”

ตอนนี้มันสายไปแล้ว มันไปถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ตอนแรกทำไมไม่คิดว่าเขาคบกับผมมา 7 ปี หมายถึงทำงานด้วยกันมา 7 ปี น่าจะรู้ว่าผมเป็นคนยังไง ผมเป็นคนใจดีนะ ไม่ได้ใจโหดใจร้าย เราไม่ได้ทวงบุญคุณนะ แต่เรามีพระคุณกับเขาแล้วเขามาทำกับเราอย่างนี้

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป