ทีมงานชี้แจ้ง ปัญหา Stick drift ของ Steam Deck มาจากระบบ

ทีมงานชี้แจ้ง ปัญหา Stick drift ของ Steam Deck มาจากระบบ

ทีมงานของอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดจาก Valve – Steam Deck ได้ออกมาชี้แจงถึงปัญหา Stick drift ที่พบเจอกันล่าสุดนั้น เกิดจากระบบ และดำเนินการปล่อยการอัปเดตแก้ไขแล้ว (2 ก.พ. 2565) ผู้ใช้งาน Steam Deck บางรายได้เริ่มทำการรายงานถึงการค้นพบปัญหาคันบังคับลอย ไม่หยุดอยู่กับที่ หรือ Stick drift ซึ่งทางทีมงานก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้ออกมายืนยันถึงการมีอยู่ และผลการตรวจสอบ โดยพบว่าเกิดขึ้นจากระบบภายในไม่ใช่ตัวชิ้นส่วน ซึ่งทางทีมงานก็ได้ทยอยปล่อยการอัปเดตระบบเพื่อแก้ไข้ปัญหาที่ว่าแล้ว

Lawrence Yang, นักออกแบบ UX ของ Valve ได้ออกมายืนยันผ่านทาง Twitter ของเขาว่า 

“ทีมงานได้ทำการสำรวจปัญหาดังกล่าวแล้ว และพบว่ามันเกิดจาก Deadzone Regression ที่มีผลจากการอัปเดต firmware ล่าสุด” “โดยทางเรานั้นได้ทำการจัดส่งการอัปเดตใหม่ เพื่อทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขอให้ผู้ใช้งานทำการอัปเดตระบบกันอีกครั้งหนึ่ง”

โดยปัญหานี้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลเป็นอย่างมาก นอกเหนือไปจากมีตัวอย่างให้เห็นโดยทั่วกันแล้ว การป้อนค่าการควบคุม หรือการเปลี่ยนการควบคุมของ Steam Deck นั้นถือว่าทำได้ยาก ทำให้หมายความหากปัญหาเกิดขึ้นแล้วนั้นคุณไม่สามารถทำอะไรได้มาก

แต่ Yazan Aldehayyat วิศวกรด้าน Hardware ก็ได้กล่าวไว้เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้วว่า “พวกเราทำการทดสอบในด้านความคงเส้นคงวาของตัวเครื่องหลายต่อหลายครั้ง” “ผมคิดว่าพวกเรารู้สึกว่ามันจะสามารถทำงานไปได้ด้วยดี และผมคิดว่าผู้คนที่ได้ใช้งานมันนั้นจะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ผมคิดว่ามันจะสินค้าที่คุ้มค่า โดยหมายถึง แน่นอนที่ว่าชิ้นส่วนทุกอย่างในตัวเครื่องนั้น จะเสียหายหรือไม่ทำงานในจุดหนึ่ง แต่ผมคิดว่าผู้คนจะรู้ยินดี และมีความสุขกับมัน”

MediaTek ทำการเปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Dimensity 8000 – 8100 โดยสมาร์ทโฟนที่ใช้งานชิปรุ่นนี้จะปล่อยตัวภายในเดือนมีนาคมนี้ (1 มี.ค. 2565) หลังจากที่ได้ทำการเปิดตัว Dimensity  9000 ชิปประมวลผลสำหรับสมาร์ทโฟนระดับสูงไปแล้วนั้น MediaTek ก็ได้ทำการเปิดตัวชิปรุ่น 8000 – 8100 สำหรับสมาร์ทโฟนในระดับใกล้เคียงกันออกมาอย่างเป็นทางการ โดยสมาร์ทโฟนตัวแรกที่จะใช้งานชิปรุ่นนี้จะปล่อยตัวภายในเดือนมีนาคมนี้

โดยชิปทั้ง 2 ตัวนั้น จะใช้งาน  Cortex-A78 4 ตัว และ Cortex-A55 อีก 4 ตัว ในส่วนของ GPU นั้น ก็มีการใช้งาน Mali-G610 MC6 ซึ่งในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานนั้น 8100 จะให้การทำงานด้าน GPU สูงกว่า 20% จากการทดสอบประเมินผล 8100 ทำไปได้ 170 FPS ส่วน 8000 ทำไปได้ 140 FPS อีกทั้งชิปทั้ง 2 นั้น จะใช้งาน MiraVision 780 ที่จะรองรับ refresh rate ได้ 168 Hz ในระดับความคมชัด FHD+ (8100 สามารถรองรับ 120Hz at WQHD+ ได้อีกด้วย)

และมี 4K AV1 video decoders รวมถึงรองรับ HDR10+ Adaptive ยังอยู่กันต่อกับด้านภาพ โดยในคราวนี้เป็นในส่วนของการถ่ายภาพที่ตัวชิปจะมี Imagiq 780 ISP ที่ซึ่งจะช่วยเหลือในการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นทั้งสองจะมาพร้อมกับ 5G modems (3GPP Release 16) ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G+5G Dual SIM และ Wi-Fi 6E (2×2) – Bluetooth 5.3 อีกด้วย

นอกจากนี้แล้วนั้น MediaTek ก็ยังมีการเปิดตัว Dimensity 1300 ที่ถือว่าเป็นแค่ตัว 1200 ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมขึ้นมาบ้างส่วนเท่านั้น คาดการณ์ว่าสมาร์ทโฟนที่จะใช้งานชิปประมวลผลทั้ง 3 นั้น จะทำการวางขายภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ซึ่งก็คือประมาณตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้

เปลี่ยนเวลารูปภาพในไอโฟน ทำได้จริงหรือไม่ ?

เปลี่ยนเวลารูปภาพในไอโฟน ทำได้จริงหรือไม่ ? เป็นอีกหนึ่งข้อสงสัย ที่ชาวเน็ตได้ตั้งข้อสงสัยจากข่าวกรณีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา ซึ่งได้มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาว่าในช่วงเวลา 3 ทุ่ม 56 นาที ทางคุณ แอนนา ทีวีพูล ได้มีการส่งข้อความแชทหา คุณแตงโม นิดา และได้รับการตอบกลับในทันที แต่กลับเปช่วงเวลาเดียวกับที่ คุณกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของคุณแตงโม ได้โชว์ภาพถ่ายร่วมกัน ทำให้อยากรู้ว่าที่จริงแล้ว รูปภาพในโทรศัพท์ไอโฟนนั้นสามารถปรับเวลาที่ถ่ายได้หรือไม่

จากกรณีดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตหลายคนออกมาแชร์ข้อมูลว่า แท้จริงแล้วโทรศัพท์ไอโฟนนั้นสามารถแก้ไขวันเวลาและสถานที่ ที่ระบุภายในรูปได้  วันนี้ The Thaiger จึงจะมาแชร์ข้อมูลให้ทุกท่านได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน

shoppingmode ไอโฟน นั้นเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีการควบด้วยระบบเฉพาะที่เรียกว่า IOS IPhone เป็นหลักซึ่งระบบปฏิบัตินี้สามารถจะทำให้ เราเปลี่ยนแปลงเวลารูปภาพที่เราถ่ายไว้ได้อย่างง่ายดาย เลยทีเดียว โดยมีวิธีการดังนี้

โดยที่แท้จริงแล้วประโยชน์ของการเปลี่ยนรูปภาพผ่านทาง IOS IPhone ได้นั้นคือการที่จะทำให้เราได้บันทึกถึงวันเวลาที่แท้จริงหากเราใช้วิธีแคปรูปหรือเซฟมาจากที่อื่น ที่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่รูปนั้นถูกถ่ายขึ้นมาอย่างแท้จริงเพื่อป้องกันการผิดพลาดในการจดจำ

แต่แน่นอนว่าทุกอย่างในสมัยนี้เป็นดั่งดาบสองคมเพราะ การที่IOS มีฟังค์ชั่นแบบนี้ก็สามารถกลายเป็นช่องโหว่ ให้กับคนบางกลุ่มสามารถปกปิดความจริงได้เช่นกัน ดังนั้นเราก็ควรใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ และรู้เท่าทันเพื่อป้องกันอันตรายจากผู้ไม่หวังดีได้เช่นกัน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป